เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. พ.ต.ท.ปณสิทธิ์ ฤทธิ์รงค์ สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านพลเมืองดีว่า เกิดอุบัติเหตุรถกระบะเฉี่ยวชนกับรถเครนแล้วพลิกคว่ำ มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนหลายราย เหตุเกิดบนถนนบริเวณสี่แยกถนนสายรองเลี่ยงเมือง บ้านบ่อนอก-ด่านสิงขร ซึ่งตัดกับถนนเพชรเกษม-บ้านหนองเสือ บริเวณเขตติดต่อระหว่าง หมู่ 5 บ้านหนองเสือ กับหมู่ 11 บ้านหนองยายเอม ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ห่างจาก 4 แยกไฟแดงถนนเพชรเกษมเมืองประจวบฯประมาณ 5 กม.
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางตัดสี่แยก และอยู่ในระหว่างการปรับปรุงก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จ พบรถเครน 6 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว หมายเลขทะเบียน 80-9136 ประจวบคีรีขันธ์ พลิกหงายท้องล้อชี้ฟ้า มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสในรถเครน เป็นชาย 1 ราย หญิง 1 ราย หน่วยกู้ภัยรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลประจวบ ส่วนรถคู่กรณีเป็นรถกระบะตอนครึ่ง ยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน บม4097 เพชรบุรี
สภาพด้านหน้ารถและตัวรถ Toyota พังเสียหายยับเยิน มีผู้โดยสารนั่งมาในรถรวม 7 คน ติดคาภายในเสียชีวิตคาที่รวม 6 ราย ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย เจ้าหน้าที่กู้ภัยใช้อุปกรณ์เครื่องตัด-ถ่าง นำร่างผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตออกมาจากซากรถ ขณะที่ผู้บาดเจ็บ น.ส.กรกาญน์ บุญประเสริฐ อายุ 16 ปี ซึ่งกำลังตั้งครรภ์ หลังนำตัวส่งโรงพยาบาลแพทย์ต้องนำเข้าห้องผ่าฉุกเฉิน เพื่อผ่าทารกออกจากอาการแท้ง ช่วยเหลือชีวิตแม่ที่อาการสาหัส
เบื้องต้นทราบชื่อผู้เสียชีวิต เป็นเครือญาติอยู่บ้านเลขที่ 181 หมู่ 1 ต.ทับใต้ อ.หัวหิน ประกอบด้วย
1.นางละม้าย จันทร์อยู่ อายุ 32 ปี
2.นางอาบ แสงไทย อายุ 48 ปี
3.นางวันเพ็ญ ภูลายเรียบ อายุ 64 ปี
4.นางถนอม แสงไทย อายุ 60 ปี
5.ด.ญ.บุญญาภรณ์ ฉายประดิษฐ์ อายุ 6 ขวบ
และ 6.นายกฤษดากร ฉายประดิษฐ์ อายุ 16 ปี
ที่นั่งท้ายกระบะกระเด็นออกมานอกรถเสียชีวิต
ส่วนสาเหตุจากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า รถเครน 6 ล้อบรรทุกเหล็กไปส่งให้กับโครงการก่อสร้างฝายชะลอน้ำบริเวณหมู่บ้านหนองเสือ ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 2 กิโลเมตร และกำลังเดินทางกลับเมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุมีรถกระบะคู่กรณีมี นางละม้าย จันทร์อยู่ อายุ 32 ปี เป็นชาวบ้านหมู่ 1 ต.ทับใต้ อ.หัวหิน เป็นคนขับ คาดว่าวิ่งกลับมาจากเที่ยวตลาดนัด ด่านสิงขรมุ่งหน้าไปทาง ต.บ่อนอก เพื่อกลับบ้านในอำเภอหัวหิน และอาจไม่คุ้นเคยเส้นทาง
ประกอบกับบริเวณทางสี่แยกแห่งนี้อยู่ในระหว่างการปรับปรุง ไม่มีสัญญาณไฟจราจร ประกอบกับสองข้างทางมีต้นไม้สูงทึบบดบังภูมิทัศน์ และแยกมีลักษณะที่เยื้องเฉียงกัน อาจทำให้รถทั้ง 2 คันมองไม่เห็น และไม่ได้ชะลอความเร็ว จนเกิดประสานงากันเต็มแรง เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายรายดังกล่าว ซึ่งนับผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 6 ราย และบาดเจ็บสาหัส 3 ราย อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ตำรวจจะสอบสวนหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ให้แน่ชัดอีกครั้ง
จากการตรวจสอบพบว่า บนถนนไม่มีรอยเบรก จึงทำให้รถทั้ง 2 คันชนกันอย่างรุนแรง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ เจ้าหน้าที่จะสอบปากคำคนขับรถ 6 ล้อ แต่ล่าสุดอยู่ในอาการบาดเจ็บ ต้องนอนรักษาตัวยังไม่สามารถให้ปากคำได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น